เชื้อราในช่องคลอด


           เชื้อราในช่องคลอดเป็น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิด จากเชื้อรากลุ่ม Candida ซึ่งร้อยละ 80 - 90 เกิดจาก Candida albicans ทำให้มีอาการระคายเคืองบริเวณช่องคลอด มีการตกขาวขุ่นจับเป็นก้อน อาจมีอาการปัสสาวะแสบขัด เจ็บขณะร่วมเพศ

สาเหตุ

โรคเชื้อราในช่องคลอด เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม แคนดิดา ( Candida)” ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ย่อย เชื้อที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบของช่องคลอดที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ แคนดิดา อัลบิแคนส์ (Candida albicans)” โดยมีรูปร่างเป็นเซลล์กลมๆหรือที่เรียกว่า ยีสต์ ซึ่งโดยปกติเป็นเชื้อที่อยู่ในช่องคลอดโดยไม่ทำให้เกิดโรค แต่ถ้าร่างกายมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ ได้รับยาปฏิชีวนะเป็นเวลานานๆ เป็นโรคเบาหวาน โรคเอดส์ หรือมีภาวะอับชื้นบริเวณอวัยวะเพศเป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้เชื้อรามีปริมาณมากขึ้นจนก่อโรค

อาการ

ผู้ที่เป็นโรคเชื้อราในช่องคลอด จะมีอาการคันเป็นอาการนำที่สำคัญ มีตกขาวลักษณะข้นมีสีขาวหรือสีเหลืองนวลเหมือนนมบูด มีกลิ่น ผนังช่องคลอดมีลักษณะบวมแดง มีอาการคันบริเวณอวัยวะเพศและภายในช่องคลอด บางครั้งอาจพบอาการบวมแดงที่บริเวณอวัยวะเพศร่วมด้วย บางครั้งช่องคลอดจะมีลักษณะเป็นปื้นแดง เปื่อยยุ่ย เป็นขุย หรือมีลักษณะเป็นฝ้าขาว ผิวแตกเป็นร่อง มีอาการแสบเวลาถ่ายปัสสาวะ และเจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ โรคเชื้อราในช่องคลอดไม่ใช่สาเหตุของมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์สตรีก็จริง แต่จะสร้างความรำคาญเป็นอย่างมากจากปริ มาณตกขาวที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ อาจมีสีหรือกลิ่นที่ผิดปกติ และมีอาการคันที่รุนแรงตามมา

การวินิจฉัยโรค

ส่วนใหญ่แพทย์วินิจฉัยโรคเชื้อราในช่องคลอดได้จาก ประวัติตกขาวที่ผิดปกติมีลักษณะ เฉพาะคือมีสีขาวหรือสีเหลืองนวลคล้ายนมบูด เมื่อนำตกขาวไปตรวจโดยใช้กล้องจุลทรรศน์จะพบลักษณะสปอร์หรือลักษณะกิ่งก้านของเชื้อรา

การรักษา

แนวทางการรักษาโรคเชื้อราในช่องคลอด คือ

ใช้ยาฆ่าเชื้อรา อาจจะเป็นยาสอดทางช่องคลอดกลุ่ม imidazole derivatives หรือยารับ ประทานกลุ่ม Ketoconazole, Polyene antibiotics หรือ Itraconazole นอกจากนี้ สามารถใช้ยาทาเฉพาะที่เพื่อบรรเทาอาการคันร่วมด้วยได้

รักษาปัจจัยเสี่ยงหรือปัจจัยเสริมต่างๆที่พบร่วมด้วย เช่น โรคเบาหวาน หรือโรคอื่นๆที่ต้องรับประทานยาปฏิชีวนะเป็นเวลานานๆ

ต้องรักษาคู่นอนร่วมด้วยเสมอ

ในรายที่รักษาไม่หายหรือเป็นเรื้อรัง พยายามตรวจหาโรคเอดส์ หรือโรคเบาหวานด้วยเสมอ

ดูแลตนเอง และป้องกันโรคเชื้อราในช่องคลอดได้อย่างไร? ควรพบแพทย์เมื่อไร?

พบอาการได้มากกว่ากลุ่มสตรีที่ไม่ตั้งครรภ์ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีผลต่อทารกในครรภ์ ไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด ส่วนการรักษาใช้วิธีเดียวกับในกลุ่มสตรีที่ไม่ตั้งครรภ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น